วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ทำ SEO เพื่อสร้างธุรกิจ เพิ่มยอดขายให้ปังกว่าเดิม

ในปัจจุบัน การทำ SEO โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจออนไลน์ นั้น เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และ การเพิ่มจำนวนคนเข้ามาถึงเว็บไซด์ของเรา จากการค้นหา ใน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือ 10 ปัจจัยสำคัญ ที่จำเป็นต่อการเพิ่มอันดับ SEO ให้กับเว็บไซต์

1. Content (เนื้อหาบนเว็บ) - ในบรรดาปัจจัยทั้งหมด เนื้อหา หรือ Content ก็ยังคงมีความสำคัญมากที่สุด ต่อการจัดอันดับ ของ Google โดย Google จะดูถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหา มากกว่า การใส่ใจ เรื่อง keyword ว่าจะมีแทรกอยู่ในบทความหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ถ้า content ที่เขียนนั้น มีเนื้อหาที่ยาว, ละเอียด และสามารถบอกเล่าข้อมูลต่างๆได้ดี ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะติดอันดับต้นๆ

2. Mobile Friendly User (ความคล่องตัวในการเข้าเว็บผ่านมือถือ) - ทุกวันนี้ การเข้าถึงเว็บไซด์นั้น สามารถเข้าผ่านได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเข้าผ่านทาง คอมพิวเตอร์ธรรมดา,โน้ตบุ๊ก หรือแม้กระทั่ง โทรศัพท์มือถือ (smart-phone) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เราแทบทุกคนขาดไม่ได้ และ ถ้าบริษัทสามารถทำ เว็บไซด์ ให้เข้าผ่านมือถือได้อย่างรวดเร็ว ก็จะยิ่งเปิดโอกาสให้คนอยากเข้ามาคลิกดูที่หน้าเพจเราเพิ่มขึ้น

3. Back- Link (แบ็คลิ้งค์) - การทำ back-link นั้น ก็มีความสำคัญ back-link หรือในความหมายแบบง่ายๆ คือ การที่มีลิ้งค์ของเว็บไซด์เราอยู่ที่เว็บไซด์อื่นโดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน และยังเป็นเครื่องบ่งชี้สำหรับ Google ด้วยว่า เว็บไซด์ของเรานั้น ได้รับการยอมรับ โดยเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง จากการ เอาลิ้งค์ของเราใส่เข้าไปในเว็บไซด์อื่นๆที่เราต้องการจะโปรโมทเว็บ เมื่อคนได้อ่านคอนเท้นและเกิดความสนใจ ทำให้มีผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์ของเรามากขึ้น

4. Long- Tail Keywords - Long-Tail Keywords คือ keyword ที่มีความเจาะจงเฉพาะสูงโดยจะเฉพาะเจาะจงลงไปว่า คำๆนั้น มีความหมายว่าอะไร? ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำเว็บไซด์ควรคำนึงถึง คุณสมบัติของ keywords ประเภทนี้จะประกอบด้วยคำหลายๆ คำมารวมกัน ตัวอย่างเช่น

5. Publish New Blog Posts (เพิ่มโพสต์) - การอัพเดตและ เผยแพร่ โพสใหม่ๆ จะเป็นการช่วยให้มี อันดับบนเว็บ ที่ดีขึ้นกว่า บทความเก่าๆ

6. Image SEO( ทำ SEO รูปภาพ) - ในการทำ SEO นั้น นอกเหนือจากที่เราจะทำ SEO ในรูปแบบของ text แล้ว เรายังสามารถทำ SEO ในแบบของรูปภาพ ได้เช่นกัน การทำ SEO รูปภาพ นั้น มีประโยชน์อย่างมาก คือ ทำให้ search-engine เค้าเข้าใจถึงรูปภาพที่เราใส่ลงไป และทำให้รูปของเราไปติดในหมวดค้นหา อื่นๆ ได้ เช่น หมวดรูปภาพ บน Google ซึ่งเทคนิคหลักๆคือ ควรใช้รูปภาพที่ถ่ายด้วยตัวเราเอง(ดีกว่ารูปที่ซื้อมา) และ ควรตั้งชื่อรูปภาพที่สื่อความหมายให้ถูกต้อง โดยตั้งเป็น ภาษาอังกฤษ (Toyota-yaris.jpg, lovely-dog.jpg) เป็นต้น

7. Traffic( สร้าง traffic ให้คนเข้าเว็บ) - การสร้างเว็บไซด์ขึ้นมานั้น มีเป้าหมายหลักๆ คือ การทำให้คนภายนอกมีการรับรู้ถึง สินค้า และ บริการ ของเรา โดยผ่านช่องทางเว็บไซด์ที่เราสร้างขึ้นมา การทำ website traffic ก็คือการ ทำให้มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมขมเว็บไซด์ของเราให้มากขึ้น โดยควรให้ความสำคัญกับ 3 traffic หลักๆ ได้แก่ direct traffic, referral traffic, และ search engine traffic

7.1 Direct Traffic : ทราฟฟิกที่มาจากการเข้าเว็บไซด์โดยตรง และไม่ผ่านการค้นหาใน Google หรือ Social Media โดยมาจากการ พิมพ์เว็บไซด์ URL บน เบราเซอร์, คลิกเข้า link จากไฟล์เอกสารอย่าง Word, Excel หรือแม้กระทั่งคลิกผ่านเว็บที่เราเซฟ bookmark เอาไว้

7.2 Referral Traffic : ทราฟฟิกอีกประเภทที่คลิกเข้ามาที่เว็บไซด์จาก การคลิก ลิ้งค์ ผ่านเว็บไซด์ อื่นๆ เช่น ตาม โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram), คอมเม้นจากไซด์อื่น, Google Image เป็นต้น

7.3 Search engine Traffic : ทราฟฟิกที่เชื่อมต่อมาถึงเว็บโดยตรงผ่านการค้นหาใน search engine โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท

7.3.1 Paid Search Traffic : ทราฟฟิกที่มาจากการเสียเงินให้กับ search engine เช่น Google Adwords

7.3.2 Unpaid Search Traffic : ทราฟฟิกที่มาจากการจัดอันดับเว็บบน search engine แบบปกติ ไม่ได้มีการเสียเงินแต่อย่างใด

8. HTTP - https:// เป็นการเข้ารหัสข้อมูลจากเว็บไซด์ของเรา เป็นการเพิ่มความปลอดภัยเวลาติดต่อสื่อสาร หรือ ส่งข้อมูล กันบน อินเทอร์เน็ตจะมีจุดสังเกตง่ายๆ ตรงมุมซ้ายบนที่มีรูปตัวล็อกกุญแจข้างๆ https:// การเข้ารหัสนั้น มีผลดีตรงที่ว่า Google จะมองว่าเว็บเรานั้นมีการใส่ใจเรื่องของ ความปลอดภัยของข้อมูล ส่งผลให้การจัดอันดับบน Google ดีขึ้นตามไปด้วย

9. Voice Search (เพิ่มคำสั่งเสียง) - การเข้าถึงเว็บไซด์นั้นมีหลายช่องทาง และ Google ก็ได้มีการสร้างเครื่องมือใหม่ๆ ออกมา อย่างเช่น การค้นหาโดยใช้เสียงของเรา อย่าง “voice search” และ ถ้าเว็บของเรานั้น มีการเพิ่มทางเลือกด้วย คำสั่งเสียง ที่ผู้คนนิยมพูดคำๆนั้นบ่อยๆ ก็จะเป็นผลดีต่ออันดับเว็บเราอีกเช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เว็บไซต์ เร็วกว่า ดีกว่าจริงหรือ ? กับการทำ SEO

1. เร็วกว่าใช่จะ 'ดีกว่า'

สิ่งแรกที่เราลงมือทำคือความเว็บของเว็บไซต์ ยิ่งเว็บไซต์ของคุณเร็วขึ้นเท่าใด Google ก็จะให้ความสำคัญกับไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบความเร็วของเว็บไซต์จาก Google มีชื่อว่า Google PageSpeed Insights โดยเครื่องมือตัวนี้จะบอกถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงในเว็บไซต์เพื่อให้เว็บมีเความเร็วมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในสิ่งที่ถูกแนะนำให้แก้ไขและปรับปรุงคือ คุณภาพของรูปภาพในเว็บไซต์ หลายๆเว็บไซต์มีรูปภาพที่มีขนาดใหญ่เกินไปทำให้ใช้เวลาในการโหลดเข้าเว็บไซต์นานจนเกินไป คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการรีไซต์หรือลดขนาดคุณภาพของรูปภาพลงเพื่อความเร็วในการโหลดภายในเว็บไซต์

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ได้คือการทำ แคชชิ่ง หรือ เก็บข้อมูลการโหลดของเว็บไซต์สำหรับคนเข้าใช้งาน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คนที่เข้าใช้งานเว็บเมื่อออกไปแล้วกลับมาอีกครั้งจะใช้เวลาในการโหลดหน้าเว็บน้อยลง

บทความจาก : www.seo-winner.com

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เว็บไซต์ที่ทำควรมีฟังก์ชันยังไง?

คำถามนี้เจ้าของธุรกิจควรต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนเลยว่า "ธุรกิจของคุณคืออะไร" และ "คุณต้องการให้เว็บไซต์เป็นอะไรสำหรับคุณ"

ถ้าคุณทำธุรกิจขายบ้าน - คงไม่มีใครบ้าทำเป็นเว็บไซต์ E-Commerce แบบ "หยิบสินค้าใส่ตะกร้า" แล้วเลือกชำระเงิน พร้อมใบเสร็จรับเงิน "บ้าน 1 หลัง + Full Furniture ราคา 3.5 ล้านบาท" ถ้าเป็นธุรกิจแนวนี้ก็ต้องเน้นการทำเว็บไซต์แบบให้ข้อมูล (Information) แล้วทำแบบฟอร์มเพื่อเก็บ Leads และติดต่อหาลูกค้าเพื่อปิดการขายอีกทีหนึ่ง เพราะบ้านไม่ได้ขายได้ด้วยตัวมันเอง แต่ต้องอาศัยการพูดคุยกับเซลล์เพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจด้วย

ถ้าคุณทำธุรกิจขายกระเป๋า หรือเสื้อผ้า - สินค้าแฟชั่นจะขายได้หรือไม่ได้ ส่วนใหญ่อยู่ที่ดีไซน์ และความสวยงาม ซึ่งเท่ากับว่า มันขายได้ด้วยตัวมันเอง เราก็ทำเป็นเว็บ E-Commerce ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า พร้อมตัดสต๊อกได้ทันที โดยที่ไม่ต้องคุยแชทเพื่อ CF กันด้วย

แต่ถ้าหากคุณต้องการเว็บไซต์ในแบบที่คุณดีไซน์ไว้ โดยมีฟังก์ชันที่ต้องการ 1, 2, 3,... และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อีกมาก คุณอาจจะต้องสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเอง เพื่อสร้างฟังก์ชันนั้นๆ ให้ตรงตามต้องการ ซึ่งจุดนี้อยู่ที่เจ้าของธุรกิจเป็นหลัก